วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

4. โรคเอดส์ติดต่อกันได้อย่างไร


โรคเอดส์ติดต่อกันได้อย่างไร

      เพื่อให้เข้าใจและจำกันได้ง่ายๆ เชื้อโรคเอดส์ติดต่อกันได้ 2 ทางใหญ่ๆ คือ ทางเพศและทางเลือดทางเพศ การมีเพศสัมพันธ์สำ ส่อนระหว่างชายกับชาย และชายกับหญิงจะมีโอกาสติดเชื้อโรคเอดส์ได้ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีเชื้ออยู่ในตัว เพราะเชื้อโรคเอดส์จะออกมากับน้ำกามของผู้ชาย และออกมากับน้ำเมือกในช่องคลอดของผู้หญิงที่เป็นโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในเม็ดโลหิตขาวที่ปะปนออกมากับน้ำกามและน้ำเมือก ดังนั้นถ้ายิ่งมีเลือดออก เช่น การร่วมเพศขณะมีประจำเดือนหรือขณะที่ประจำเดือนยังไม่หมดดีหรือถ้ามีบาดแผล เช่น การมีแผลกามโรคมีเลือด หรือ น้ำเหลืองไหลเยิ้มมาก็ยิ่งถ่ายทอดโรคให้คนอื่นได้ง่ายขึ้น หรือถ้าฝ่ายผู้รับเชื้อมีบาดแผลเช่นบาดแผลที่เกิดจากการฉีดขาดระหว่างการร่วมเพศ (เช่นการถูกร่วมเพศทางทวารหนักหรือการร่วมเพศที่รุนแรงเกินไป) หรือที่เกิดจากการที่มีแผลกามโรคอยู่เดิมก็จะยิ่งทำให้รับเชื้อเอดส์ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การรักษาแผลกามโรคและการใส่ถุงยางอนามัยขณะร่วมเพศกับคนที่ไม่ใช่เป็นภรรยาหรือสามีของตนจึงเป็นทางหนึ่งที่จะป้องกันโรคเอดส์ได้
อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวโดยไม่ได้ป้องกัน หรือโดยไม่มีบาดแผล ก็สามารถติดเอดส์ได้ และการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสมัครเล่น(ไม่ใช่หญิงบริการ) ก็สามารถติดเอดส์ได้เช่นเดียวกัน เพราะไม่ทราบว่าเขาไป "สมัครเล่น" กับคนอื่นอีกกี่คนก่อนมาถึงเรา !


ทางเลือด หรือผลิตภัณฑ์ของเลือด

- การรับเลือดที่มีเชื้อเอดส์เข้าไป เช่นโดยการถ่ายเลือด แต่เลือดที่ให้กันในบ้านเราในปัจจุบัน
ได้รับการตรวจเอดส์อย่างดีแล้ว โอกาสติดเอดส์จึงมีน้อยมาก
- การใช้เข็มฉีดยาที่เปื้อนเลือดของคนที่ติดเชื้อโรคเอดส์ เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในกลุ่มผู้ติดยาเสพติดโดยการฉีดยาเข้าเส้นเลือด
- การติดต่อจากแม่ไปสู่ลูก โดยผ่านรก หรือโดยการปนเปื้อนเลือดแม่ระหว่างคลอด เช่น เข้าทางรอยตัดของสายสะดือเด็กหรือโดยการกลืนกินเลือดหรือน้ำคร่ำของแม่เข้าไปในระหว่างคลอด ส่วนการติดต่อโดยผ่านทางน้ำนมก็เกิดจากมีเม็ดโลหิตขาวปะปนอยู่ในน้ำนมของแม่ที่ติดเชื้อ จึงอาจอนุโลมจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับการติดต่อทางเลือด
- การปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการผสมเทียม ถ้าอวัยวะหรือน้ำอสุจิที่นำมาให้กับคนไข้มาจากคนที่มีเชื้อเอดส์อยู่ เนื่องจากมีการปนเปื้อนด้วยเลือดหรือเม็ดโลหิตขาวที่มีเชื้ออยู่
- การถูกเข็มหรือของมีคมที่เปื้อนเลือดเอดส์ตำ เช่น การที่บุคลากรทางการแพทย์ถูกเข็มที่เปื้อนเลือดตำ การใช้เข็มหรือเครื่องมือทางการแพทย์ไม่สะอาด การสัก การฝังเข็ม การเจาะรูตุ้มหู รวมตลอดจนถึงการเสริมสวยที่ใช้ของมีคม ซึ่งไม่สะอาด แต่โอกาสติดเอดส์ จากวิธีเหล่านี้มีน้อยมากคือ น้อยกว่า 0.5%
ดังนั้น การที่รู้ว่าโรคเอดส์ติดต่อกันได้อย่างไร จะได้นำไปคิดและนำไปปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองติดเชื้อโรคเอดส์ หรือป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเอดส์จากตัวเองแพร่ไปสู่ผู้อื่นในกรณีที่ตัวเองติดเชื้ออยู่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น